SEO มันคืออะไร เเล้วมันมีความสำคัญอย่างไรต่อเว็บไซต์ของคุณ

SEO ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมาร์เก็ตติ้งในยุคนี้เลยที่เดียว เพราะบางที่หากเราสามารถที่จะทำเว็บไซต์หนึ่งแล้วมียอดขายได้พออยู่นั้นแปลว่า การขายของเราไปอย่างชิวและสบายเลยที่เดียว ยิ่งทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับหน้าแรก เมื่อนั้นคงได้เห็นการหลั่งไหลเข้ามาซื้อขายอย่างแน่นอน images เทคนิคอะไรหละที่ควรทำ เมื่อเรามีเว็บไซต์ แน่นอน?ว่าการมีเว็บไซต์อย่างเดียวนั้นมันคงไม่ช่วยอะไรเราได้หรอก หากว่าเราไม่มีการโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จักกันบนโลกโซเชียล ซึ่งการทำให้เว็บไซต์เรานั้นมีหลากหลายวิธี อย่างซื้อ Ads โฆษณาโดยตรง การ ทำ SEM การทำ SEO เหล่านั้นเป็นการสร้างให้เว็บของเราเป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ่น

ทำไม SEO เดี่ยวนี้จึงมีความสำคัญ

ลองมองภาพดูซิว่าเดี่ยวนี้ไม่มีใครใช้แล้วกับมือถือที่ไม่มีเน็ต ซึ่งเวลาที่พวกเขาอยากดูหนัง อยากจะสั้งซื้อสินค้าบางอย่าง เขาต้องกดค้นด้วยซาฟารีมั้ง ด้วย google มั้ง ด้วย Bing มั้ง แล้วสมมุติว่าเจอเว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับต้นๆแล้ว ยอดการสั่งซื้อของคุณก็จะตามมาทันที

แล้วการทำ SEO มันยากไหมในยุคนี้ ?

Google เขามีการพัฒนาแอพของเขาอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นหากว่าเราคิดว่ามันง่ายมันก็ไม่ง่ายน่ะ ถามว่ายากไหมมันคงจะยาก เพราะว่านัก วิเคราะห์ SEO ทั้งหลายต้องอยู่กับมันตลอดต้องเช็คด้วยว่า แนวโน้มของ google ในปีทักไปนั้นมันจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรมั้ง บางครั้งเว็บของบางคนอยู่อันดับต้นของเว็บไซต์ แต่พอถึงช่วงหนึ่งเว็บของเขาได้หายไปเลย นั้นอาจจะหมายถึงว่า google ได้เปลี่ยนอัลกอรีทึ่มใหม่แล้ว ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์ การทำ ราคาSEO การ รับทำ SEOรับทำ SEO ได้ที่ www.allconnective.com

การทำ SEO มีขั้นตอนหลายขั้นตอน แต่นี่คือขั้นตอนหลักๆ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ:

• ค้นหาคำหลัก (Keyword Research)

ค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณและมีความนิยมในการค้นหาของผู้ใช้ เครื่องมือเช่น Google Keyword Planner สามารถช่วยในการค้นหาคำหลักได้.

• เนื้อหาคุณต้องมีคุณภาพ

สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เนื้อหาที่ดีมีโอกาสที่จะได้รับการแชร์และเชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่น.

• การปรับแต่ง On-Page SEO
• การสร้างลิงก์ (Link Building)

สร้างลิงก์ที่เชื่อถือได้จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การแลกลิงก์, การเขียนบทความแขวนลิงก์, หรือการใช้โซเชียลมีเดีย.

• การใช้ Header Tags และตัวเนื้อหาที่มีโครงสร้างดี

ใช้ H1, H2, H3 ในการจัดลำดับเนื้อหา เพื่อให้เข้าใจง่ายและสื่อถึงโครงสร้างของเนื้อหา.

• ปรับแต่ง URL และโครงสร้างลิงก์

ทำให้ URL สื่อถึงเนื้อหาของเพจ และใช้โครงสร้างลิงก์ที่มีนามสกุลที่เข้าใจง่าย.

• การให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี

ตรวจสอบความเร็วของเว็บไซต์, ทำให้มีการเข้าถึงได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ, และทำให้เนื้อหาสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย.

• การใช้ Alt Text ในรูปภาพ

เพิ่มข้อความแทนที่ในรูปภาพเพื่อช่วยใน SEO และการทำให้เว็บไซต์เข้าถึงได้ดีในกรณีที่รูปภาพไม่สามารถแสดงได้.

• การใช้ Schema Markup

ใช้ Schema Markup เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดียิ่งขึ้น.

• การตรวจสอบและวัดผล

ใช้เครื่องมือวัดผล SEO เพื่อติดตามการเข้าถึงและทำการปรับแต่งตามผลลัพธ์ที่ได้.